Thursday, February 27, 2020

อารยธรรมซาโปเต็ค






เดิมชาวซาโปเต็ค (Zapotec) เป็นชนเผ่าที่ไม่ทราบความเป็นมาแน่ชัด มีหลักฐานเพียงแค่ว่าคงอาศัยอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันนี้คือเมืองซาน โฮเซ โมโกเต (San José Mogote) หรือไม่ก็ทางใต้และตะวันออกของหุบเขาวักซาคา (Oaxaca สเปนออกเสียง : วาฮากา) ทางตอนใต้ของรัฐวักซาคา ในภาคตะวันตกของเม็กซิโกในปัจจุบัน

ต่อมา คนเหล่านี้จึงอพยพเข้ามาสร้างนคร มอนเต อัลบัน (Monte Albán) ขี้นกลางหุบเขาวักซาคา เมื่อราวๆ 500-750 ปีก่อนคริสตกาล




มอนเต อัลบัน จึงนับเป็นเมืองแรกๆ ที่สร้างขึ้นในทวีปอเมริกากลาง และเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีชาวเมืองมากถึง 5,200 คนภายใน 200 ปี

และต่อมาช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล–ค.ศ.200 ก็มีประชากรมากถึง 17,200 คน ทำให้นครกลางหุบเขาแห้งนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทวีปอเมริกากลาง

ในยุคแห่งความเจรืญรุ่งเรือง ชาวซาโปเต็คขยายอำนาจครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบสูงวักซาคัน (Oaxacan) รวมทั้งมีการติดต่อค้าขายกับ นครเตโอติวาคัน (Teotihuacan) ด้วย

ส่วนในด้านศาสนา ภูมิปัญญา และศิลปวัฒนธรรมนั้น ชาวซาโปเต็คมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมโอลเม็ค (Olmec) และมายา  มากกว่าเตโอติวาคันครับ

พวกเขามีปฏิทินที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับทั้งสองชนชาตินั้น แหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ของนครมอนเต อัลบัน ในเขตเทศบาลเมืองซานตา ครูซ โซโซโคทลัน (Santa Cruz Xoxocotlán) เวลานี้ แสดงให้เห็นถึงระบบผังเมือง ตลอดจนอาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างดี แลดูเรียบร้อยสวยงาม

 ภายในเมืองมี Main Plaza ขนาด 300x200 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมและที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูง รวมทั้งลานบอล พิธีกรรมบูชาเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่ได้รับมาจากพวกมายา




มอนเต อัลบัน เป็นเมืองหลวงของชาวซาโปเต็ค ตลอดระยะเวลายาวนานเกือบพันปี นับว่าเป็นมหานครที่มีอายุยืนนานที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปอเมริกากลาง ก่อนจะถูกละทิ้งไปในช่วงหลังค.ศ.200 ด้วยสาเหตุที่ยังไม่แน่ชัด

นอกจากนี้ ยังมีอีกเมืองที่สำคัญของอารยธรรมซาโปเต็ค คือ นครมิทลา (Mitla) ตั้งอยู่บนหุบเขาทลาโคลูลา (Tlacolula) ในรัฐวักซาคาเช่นกันครับ

เมืองนี้เป็นมีโบราณสถานที่สำคัญที่สุด สำหรับประกอบพิธีบูชายัญ ซึ่งชื่อ Mitla ก็มาจากคำในภาษานาวาทล์ว่า มิคทลัน (Mictlán) หมายถึง สถานที่แห่งความตาย หรือยมโลก

 แต่โบราณสถานของนครแห่งนี้ ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในทวีปอเมริกากลาง คือ การตกแต่งอาคารด้วยโมเสก (Mosaic) ที่ละเอียดซับซ้อน ทำจากหินที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และขัดให้ต่อเข้ากันได้พอดี ซึ่งไม่ต้องใช้กาวหรือปูนเชื่อมเลย




ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ถึงความสัมพันธ์ทางการเมือง ระหว่างมิทลากับมอนเต อัลบัน ทั้งสองอาจเป็นนครรัฐที่มีอำนาจปกครองตนเอง แต่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน

และหลังจากมอนเต อัลบันถูกทิ้งร้างในช่วงหลังค.ศ.200 แล้ว มิทลาก็ยังคงอยู่ต่อมาจนถึงประมาณปีค.ศ.1000 ชาวมิกซ์เต็ค (Mixte)c จึงเข้าครอบครอง และขยายเมืองให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

จนกลายเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญอีกแหล่งกนึ่งของทวีปอเมริกากลาง จนถึงยุคล่าอาณานิคมของสเปนครับ

...................................


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด


No comments:

Post a Comment